QR-CODE |
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Polianthes tuberosa
|
ชื่อสามัญ |
Tuberose
|
ชื่ออื่น |
ดอกรวงข้าว, ดอกลีลา
|
วงค์ หมวดหมู่ |
AMARYLLIDACEAE
|
ประเภทพันธ์ไม้ |
ไม้ล้มลุก
|
ชนิดของลำต้น |
ไม่ระบุ
|
สภาพทางนิเวศน์ |
|
การขยายพันธ์ |
1. การแยกหน่อ ทำได้โดยการใช้มือหรือมีดปลิดแยกหน่อออกจากกอเดิมแล้วนำไปปลูกลงแปลงได้ทันที การแยกหน่อควรแยกก่อนออกดอก วิธีการนี้จะทำได้ง่ายและได้ต้นใหม่จำนวนมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดและปริมาณของกอเดิมด้วย
2. การใช้หัว เป็นวิธีการที่นิยมกันมาก ทำง่าย สะดวก และเกษตรกรสามารถเก็บรักษาส่วนที่ขยายพันธุ์ไว้ปลูกในฤดูต่อไปด้วย
3. การแบ่งหัว เป็นวิธีการขยายพันธุ์โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติคล้ายกับการขยายพันธุ์บอนสีโดยการแบ่งหัวให้มีตาติดอยู่กับส่วนที่ตัด แล้วนำไปปักชำ เมื่อต้นงอกและมีใบประมาณ 2-3 ใบ ก็นำไปปลูกได้ แต่เป็นวิธีการขยายพันธุ์ที่ช้า ไม่เหมาะที่จะทำเป็นการค้า การเก็บรักษาหัวเพื่อใช้ขยายพันธุ์ในฤดูกาลต่อไป การเก็บหัวจะเก็บจากแปลงที่มีอายุเลย 3 ปีไปแล้ว เพราะซ่อนกลิ่นที่อายุมาก ผลผลิตจะลดลง จำเป็นต้องรื้อแปลงปลูกใหม่ ก่อนจะทำการเก็บหัวควรงดการให้น้ำลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งสังเกตว่าใบเหลืองจนหมดแล้ว จึงขุดเอาหัวขึ้นมา สลัดเอาดินออกให้หมด แล้วนำไปเก็บไว้ในที่ร่ม ไม่ให้ถูกฝน หัวที่กองไว้ควรหมั่นกลับทุก ๆ 2-3 วัน กรณีที่เก็บนาน ๆ ควรแช่ยากันราก่อนเพื่อป้องกันเชื้อราเข้าทำลาย
|
การจัดเรียงตัวของใบ |
เรียงเวียนสลับ
|
รูปร่างของใบ |
รูปช้อน
|
แบ่งชนิดของผล |
ไม่มี
|
ประเภทของดอก |
ช่อกระจะ
|
ประเภทของดอก |
ช่อกระจะ
|
ประเภทของเปลือก |
ไม่มี
|
ลักษณะของใบ |
ใบเจริญมาจากฐานหัว เรียวยาวโผล่ออกมาจากพื้นดิน มีความยาวประมาณ 30-40 ซม. กว้าง 2-3 ซม. ใบมีสีเขียวสดมีจุดแดงที่ฐานใบ กลางใบห่อเข้าหากัน ใบหนาพอสมควร ใบล่างจะมีขนาดเล็กกว่า ใบที่อยู่ติดกันขึ้น ใบที่แตกใหม่จะตั้งขึ้น ใบแก่จะห้อยลง
|
ลักษณะของใบ |
ใบเจริญมาจากฐานหัว เรียวยาวโผล่ออกมาจากพื้นดิน มีความยาวประมาณ 30-40 ซม. กว้าง 2-3 ซม. ใบมีสีเขียวสดมีจุดแดงที่ฐานใบ กลางใบห่อเข้าหากัน ใบหนาพอสมควร ใบล่างจะมีขนาดเล็กกว่า ใบที่อยู่ติดกันขึ้น ใบที่แตกใหม่จะตั้งขึ้น ใบแก่จะห้อยลง
|
ลักษณะของผล |
-
|
ลักษณะของดอก |
จะชูช่อออกมาตรงกลางกอของลำต้นและมีดอกเกาะตรงก้านดอกเรียงกันเป็นแนวตามก้านดอก ดอกมีสีขาวยาวประมาณ 1 นิ้ว ช่อดอกหนึ่งๆ จะยาวประมาณ 2-2.5 ฟุต แต่ละช่อดอกจะมีดอกย่อยประมาณ 40-90 ดอก กลีบดอกแต่ละกลีบจะไม่เท่ากัน กว่าดอกจะบานหมดทั้งช่อใช้เวลา 5-7 วัน พันธุ์ที่ใช้ปลูก
? พันธุ์ดอกลา มีกลีบดอกเพียงชั้นเดียว
|
รายละเอียดของเปลือก |
-
|
ลักษณะของต้น |
เป็นพรรณไม้ล้มลุกที่มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ซึ่งใช้เป็นแหล่งสะสมอาหาร รอบ ๆ หัวจะมีตาอยู่ซึ่งสามารถเจริญเติบโตเป็นลำต้นหรือหัวต่อไปได้ ลักษณะของหัวจะคล้ายๆ กับหัวหอม
|
ประโยชน์ |
ซ่อนกลิ่น จะนิยมนำมาใช้ประโยชน์ในส่วนของต้นหรือเหง้า และดอก มาใช้ประโยชน์ โดยมี ตำราแพทย์แผนไทย ได้กล่าวถึงสรรพคุณของ เหง้าและดอกของต้นซ่อนกลิ่น ว่า ช่วยลดการอักเสบ และ บรรเทาความผิดปกติของกระดูก ได้ ดอกซ่อนกลิ่น มีกลิ่นหอม ช่วยให้ผ่อนคลายอารมณ์ และ ลดความตึงเคลียด ทำให้ใจเย็น ทำให้จิตใจสงบ มีสมาธิ นอนหลับง่าย กระตุ้นกำหนัด
|
สถานที่พบ |
ส่วนป่าวิทยาลัย
|