QR-CODE |
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Spathodea campanulata P.Beauv.
|
ชื่อสามัญ |
Africom tulip tree, Fire bell, Fountain tree, Pichkari, Nandi flame, Syringe
|
ชื่ออื่น |
แคแดง (กรุงเทพ), ยามแดง เป็นต้น โดยแคแสดนั้นเป็นพืชพื้นเมืองของ แอฟริกาตอนใต้ และในภายหลังได้แพร่กระจายไปยังประเทศอื่น ๆ ของโลกที่มีอากาศค่อนข้างร้อน
|
วงค์ หมวดหมู่ |
BIGNONIACEAE
|
ประเภทพันธ์ไม้ |
ไม้ยืนต้น
|
ชนิดของลำต้น |
ลำต้นเหนือดิน
|
สภาพทางนิเวศน์ |
|
การขยายพันธ์ |
ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดหรือใช้หน่อ
|
การจัดเรียงตัวของใบ |
เรียงสลับระนาบเดียว
|
รูปร่างของใบ |
รูปรี
|
แบ่งชนิดของผล |
ผลรวม
|
ประเภทของดอก |
ช่อดอก
|
ประเภทของดอก |
ช่อดอก
|
ประเภทของเปลือก |
เปลือกไม้ร่อง
|
ลักษณะของใบ |
ใบเป็นใบผสมแบบขนนก มีใบย่อยประมาณ 4-7 คู่ ส่วนปลายเป็นใบเดียว ลักษณะของใบเป็นรูปรี ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบจับแล้วสากระคายมือ
|
ลักษณะของใบ |
ใบเป็นใบผสมแบบขนนก มีใบย่อยประมาณ 4-7 คู่ ส่วนปลายเป็นใบเดียว ลักษณะของใบเป็นรูปรี ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบจับแล้วสากระคายมือ
|
ลักษณะของผล |
มีผลเป็นฝักคล้ายรูปเรือสีดำ ปลายผลแหลม ผลเมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาล เมื่อผลแก่จะแตกเป็นด้านเดียว ภายในผลมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดมีขนาดเล็ก แบน และมีปีก โดยจะออกผลตลอดทั้งปี และจะออกผลมากในช่วงฤดูฝนคือช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกันยายน
|
ลักษณะของดอก |
ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ช่อดอกตั้งตรง มีก้านช่อดอกยาว แต่ละช่อจะมีดอกจำนวนมากและจะทยอยกันบานครั้งละ 2-6 ดอก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6-9 เซนติเมตร กลีบดอกติดกัน ลักษณะของกลีบดอกเป็นรูประฆัง คล้ายดอกทิวลิป เป็นสีแสดหรือสีเลือดหมู ดอกแคแสดมีขนาดใหญ่ กลีบดอกหลุดร่วงได้ง่าย โดยจะเริ่มออกดอกเมื่อมีอายุได้ประมาณ 4-8 ปี และจะออกดอกตลอดทั้งปี แต่จะออกดอกมากในช่วงฤดูหนาว ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
|
รายละเอียดของเปลือก |
เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาลเข้มและมีรอยแตกเป็นรวงตามยาว
|
ลักษณะของต้น |
ต้นแคแสด หรือ ต้นแคแดง จัดเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง มีความสูงของต้นประมาณ 15-20 เมตร ลักษณะของต้นเป็นทรงเรือนยอดพุ่มกลมและค่อนข้างทึบ หากปลูกในที่แห้งมากจะผลัดใบ แต่จะไม่พร้อมกันทั้งต้น และถ้าหากตัดแต่งกิ่งให้แตกเป็นพุ่มกลม ก็จะให้ดอกที่พุ่มกลมตามรูปของเรือนยอดและดูสวยงามมาก
|
ประโยชน์ |
เปลือกรักษาแผล โรคผิวหนัง แผลเรื้อรัง แก้บิด ใบและดอก ใช้พอกแผล ดอก ใช้รักษาแผลเรื้อรัง ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับและยังสามารถปลูกเพื่อให้ร่มเงาได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำดอกมาประกอบอาหารได้เหมือนแคบ้าน
|
สถานที่พบ |
ส่วนป่าวิทยาลัย
|