QR-CODE |
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Michelia alba DC.
|
ชื่อสามัญ |
? White sandalwood , White champaka , White jade orchid tree
|
ชื่ออื่น |
ภาคกลาง และทั่วไป ? จำปี ,ภาคเหนือ ? จุมปี - จุ๋มปี๋
|
วงค์ หมวดหมู่ |
MAGNOLIACEAE
|
ประเภทพันธ์ไม้ |
ไม้ประดับอื่นๆ
|
ชนิดของลำต้น |
ไม่ระบุ
|
สภาพทางนิเวศน์ |
|
การขยายพันธ์ |
การตอนกิ่ง
กิ่งจำปีที่ใช้ตอน ควรเป็นกิ่งที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป ขนาดกิ่งประมาณเท่านิ้วก้อยหรือนิ้วหัวแม่มือ เปลือกกิ่งมีสีน้ำตาล จากนั้น ใช้มีดกรีดควั่นกิ่งเป็นวงกลม 2 จุด ให้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว หรือ 3 เซนติเมตร แล้วตัดเปลือกหุ้มออก ก่อนจะใช้มีดขูดเยื่อหุ้มออกจนถึงแก่นไม้ จากนั้น นำถุงตอนกิ่งที่บรรจุด้วยขุ๋ยมะพร้าวเปียกมาหุ้มรัดบริเวณควั่นกิ่ง ด้วยการผ่าถุงตอนออกเป็นร่องตามขวาง แล้วมัดด้วยเชือกฟางให้แน่น หลังจากนั้น ประมาณ 1-2 เดือน กิ่งจะแตกรากจนมีสีน้ำตาลจึงตัดกิ่งลงเพาะต่อในถุงเพาะชำ ก่อนจะดูอีกประมาณ 1 เดือน แล้วค่อยนำปลูกลงแปลง
|
การจัดเรียงตัวของใบ |
เรียงสลับ
|
รูปร่างของใบ |
รูปใบหอก
|
แบ่งชนิดของผล |
ผลกลุ่ม
|
ประเภทของดอก |
ดอกเดียว
|
ประเภทของดอก |
ดอกเดียว
|
ประเภทของเปลือก |
เปลือกไม้ร่อง
|
ลักษณะของใบ |
ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันบนกิ่ง ใบมีรูปหอก มีก้านใบยาว 1.5-2 เซนติเมตร ขนาดใบประมาณ 5-10 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลม แผ่นใบเรียบ และขอบใบเรียบ แผ่นใบมีสีเขียวอ่อน มีเส้นกลางใบสีขาวอมเขียวชัดเจน แผ่นใบค่อนข้างหนา และเหนียว
|
ลักษณะของใบ |
ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันบนกิ่ง ใบมีรูปหอก มีก้านใบยาว 1.5-2 เซนติเมตร ขนาดใบประมาณ 5-10 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลม แผ่นใบเรียบ และขอบใบเรียบ แผ่นใบมีสีเขียวอ่อน มีเส้นกลางใบสีขาวอมเขียวชัดเจน แผ่นใบค่อนข้างหนา และเหนียว
|
ลักษณะของผล |
ผลจำปีมีลักษณะออกเป็นกระจุกแน่น 15-25 ผล/ก้านผล มีก้านผลยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร แต่ละผลมีลักษณะทรงกลม เปลือกผลอ่อนมีสีเขียวอ่อน ผลแก่มีสีเขียมอมน้ำตาล และมีปุ่มสีน้ำตาลกระจายทั่วผล ส่วนผลสุกจะมีสีแดง เปลือกผลค่อนข้างหนา ด้านในผลมีเมล็ดสีดำ 1-4 เมล็ด
|
ลักษณะของดอก |
ดอกจำปี ออกเป็นดอกเดี่ยวบริเวณปลายยอด ประกอบด้วยกลีบดอกที่เรียงช้อนกัน 8-12 กลีบ แต่ละกลีบมีลักษณะรียาว 4-5 เซนติเมตร แผ่นกลีบมีสีเหลืองหรือสีครีม ถัดมาตรงกลางดอกด้านในจะเป็นเกสรตัวผู้จำนวนมาก ก้านเกสรตัวผู้ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร มีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าวสาร ถัดมาตรงกลางสุดจะเป็นเกสรตัวเมียที่มีลักษณะเป็นแท่งกลม และมีปลายเกสรคล้ายฝักข้าวโพด ด้านล่างเกสรจะเป็นรังไข่ ทั้งนี้ ดอกจำปีจะออกดอกได้ตลอดทั้งปี และดอกจะบานในช่วงค่ำ ประมาณ 2-3 ทุ่ม เมื่อบานจะส่งกลิ่นหอมอบอวนไปจนถึงรุ่งสาง
|
รายละเอียดของเปลือก |
เป็นร่องถี่
|
ลักษณะของต้น |
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10-20 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นสีน้ำตาลแตกเป็นร่องถี่ กิ่งเปราะ หักง่าย
|
ประโยชน์ |
- สรรพคุณทางการแพทย์ของจำปีนั้นพบน้อยกว่าจำปา แต่ตำรายาแผนโบราณของไทยระบุว่า ทั้ง 2 ชนิด มีสรรพคุณเช่นเดียวกัน คือ ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ บำรุงประสาท บำรุงโลหิต วิธีใช้คำให้นำส่วนดอกมาต้มในน้ำเดือด ดื่มวันละ 3-5 แก้ว หรือนำส่วนดอกไปตากแห้ง แล้วบดเป็นผง ผสมเข้าตำรับยาหอม ละลายน้ำร้อนดื่มรับประทาน
- กลีบดอกสดมีน้ำมันหอมระเหย จึงสามารถนำมากลั่นเอาแต่น้ำมัน ใช้ทาบริเวณศีรษะ เพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ
- ดอก ผล และเปลือกต้น มีสรรพคุณบำรุงธาตุ บำรุงร่างกาย บำรุงครรภ์ แก้คลื่นเหียน โบราณจะให้สตรีตั้งครรภ์ใช้ส่วนดอก ผล และเปลือกไม้ ปรุงเป็นยาต้มดื่ม
แก่นจำปี บำรุงประจำเดือน ใบ ช่วยขับระดูขาวของสตรี สำหรับสตรีที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมีตกขาว โบราณจะให้นำแก่นและใบไปปรุงเป็นยาต้มดื่ม
|
สถานที่พบ |
ส่วนป่าวิทยาลัย
|